วิธีการใช้ดองดึงมาทำเป็นยา








ชื่อสมุนไพร

ดองดึง

ชื่อเรียกอื่นๆ

ก้ามปู (ชัยนาท), หมอยหีย่า (อุดรธานี), พันมหา (นครราชสีมา), คมขวาน,
หัวขวาน, บ้องขวาน (ชลบุรี), ดาวดึงส์, ว่านก้ามปู (ภาคกลาง), มะขาโก้ง (ภาคเหนือ), ดาวดึง, หัวขวาน,
หัวฟาน และ พันมหา (ภาคอีสาน)

ชื่อวิทยาศาสตร์

Gloriosa superba L.

ชื่อสามัญ

Climbing Lily, Turk’s cap, Superb Lily, Flame Lily และ Gloriosa Lily

วงศ์

COLCHICACEAE


ดองดึงเป็นพืชที่มีอยู่ทั่วไปชอบขึ้นตามบริเวณที่โล่งหรือบริเวณชายป่าในดินปนทรายหรือดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์
สามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือแยกเหง้า โดยปกติส่วนใหญ่จะนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ดอกประดับซึ่งดอกมีสีสันสวยงามสะดุดตาและมีความคงทนเมื่อเปรียบเทียบกับไม้ดอกทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์เช่นกัน โดยส่วนที่นำมาใช้ได้แก่ ส่วนหัว แป้งที่ได้จากหัว เมล็ด และรากโดยมักนำมาทำเป็นยาสมุนไพร
เนื่องจากพืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่างๆหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Colchicne, Gloriosine, Superbine รวมไปถึงสารอัลคาลอยด์อื่นๆด้วย
โดยสารโคลชิซีน (Colchicne) ซึ่งสารสกัดต่างๆเหล่านี้มีสรรพคุณในการป้องกันโรคได้หลายชนิดโดยเฉพาะรักษาอาการปวดข้อได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ จึงเป็นที่มาของทางการแพทย์นำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิดและโรคไขข้ออักเสบ
อีกทั้งสารโคลชิซีนยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมที่มีการนำไปใช้ผสมพันธุ์ให้กับพืชเพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่

ลักษณะสมุนไพร

ดองดึงเป็นพืชไม้เถาล้มลุกที่มีอายุหลายปีและค่อนข้างยาว ยาวได้ถึง 5 เมตร มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดินทรงกระบอกโค้ง
ใบเป็นใบเดี่ยวแบบเรียงสลับหรือเรียงเป็นวงรอบข้อ 1-3 ใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอกที่มีความยาวประมาณ 5-15 ซม.
ปลายใบเรียวแหลมงอเป็นมือเกาะและไม่มีก้าน ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่ความยาว 6-10 ซม.
ก้านดอกมีความยาวประมาณ 5 ซม. ดอกมีสีแดงด้านบน หรือตามขอบกลีบ ด้านล่างมีสีเหลืองบางครั้งมีสีเหลืองซีดอมเขียว
หรือสีแดงทั้งดอก เกสรเพศผู้มีจำนวน 6 อัน ก้านดอกมีความยาว 3-5 ซม. อับเรณูมีความยาวประมาณ 1 ซม.
ก้านเกสรเพศเมียมีความยาว 0.3-0.7 ซม. แยกเป็น 3 แฉก ผลรูปขอบขนานมีความยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน
เมล็ดกลมสีแดงส้มจำนวนมาก ผลมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานมีความยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน มีเมล็ดกลมๆสีแดงส้มจำนวนมาก


ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ : ราก, หัว และ เมล็ด
สรรพคุณทางยา
1. ราก แก้จุกเสียด ช่วยลดเสมหะ แก้โรคผิวหนัง
2. หัว รักษาโรคมะเร็ง แก้โรคปวดข้อ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อรักษาโรคเรื้อน แก้โรคกามโรค ช่วยขับลม
3. เมล็ด ยาเบื่อสัตว์

วิธีการใช้

แก้จุกเสียด ช่วยลดเสมหะ นำรากมาต้มกับน้ำ ดื่มรับประทาน
แก้โรคผิวหนังแก้พิษงู พิษตะขาบ แมลงป่อง นำรากมาฝนทาบริเวณที่เป็น
รักษาโรคมะเร็ง แก้โรคปวดข้อ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อรักษาโรคเรื้อน แก้โรคกามโรค ช่วยขับลม
นำหัวดองดึงมาสกัดรับประทานหรือนำมาฝนทาแก้โรคปวดข้อ แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย แก้ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ รักษาโรคเรื้อน
แก้โรคกามโรค ยาเบื่อสัตว์ นำเมล็ดมาโขลกให้ละเอียดใช้เป็นยาเบื่อสัตว์






ข้อมูลเพิ่มเติมthaiherbal