ดองดึงเป็นพืชที่มีอยู่ทั่วไปชอบขึ้นตามบริเวณที่โล่งหรือบริเวณชายป่าในดินปนทรายหรือดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์
สามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดหรือแยกเหง้า โดยปกติส่วนใหญ่จะนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ดอกประดับซึ่งดอกมีสีสันสวยงามสะดุดตาและมีความคงทนเมื่อเปรียบเทียบกับไม้ดอกทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์เช่นกัน โดยส่วนที่นำมาใช้ได้แก่ ส่วนหัว แป้งที่ได้จากหัว เมล็ด และรากโดยมักนำมาทำเป็นยาสมุนไพร
เนื่องจากพืชชนิดนี้มีสารสำคัญต่างๆหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Colchicne, Gloriosine, Superbine รวมไปถึงสารอัลคาลอยด์อื่นๆด้วย
โดยสารโคลชิซีน (Colchicne) ซึ่งสารสกัดต่างๆเหล่านี้มีสรรพคุณในการป้องกันโรคได้หลายชนิดโดยเฉพาะรักษาอาการปวดข้อได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังมีฤทธิ์ในการยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ จึงเป็นที่มาของทางการแพทย์นำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิดและโรคไขข้ออักเสบ
อีกทั้งสารโคลชิซีนยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโครโมโซมที่มีการนำไปใช้ผสมพันธุ์ให้กับพืชเพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่
ดองดึงเป็นพืชไม้เถาล้มลุกที่มีอายุหลายปีและค่อนข้างยาว ยาวได้ถึง 5 เมตร มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดินทรงกระบอกโค้ง
ใบเป็นใบเดี่ยวแบบเรียงสลับหรือเรียงเป็นวงรอบข้อ 1-3 ใบเป็นรูปขอบขนานแกมรูปใบหอกที่มีความยาวประมาณ 5-15 ซม.
ปลายใบเรียวแหลมงอเป็นมือเกาะและไม่มีก้าน ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่ความยาว 6-10 ซม.
ก้านดอกมีความยาวประมาณ 5 ซม. ดอกมีสีแดงด้านบน หรือตามขอบกลีบ ด้านล่างมีสีเหลืองบางครั้งมีสีเหลืองซีดอมเขียว
หรือสีแดงทั้งดอก เกสรเพศผู้มีจำนวน 6 อัน ก้านดอกมีความยาว 3-5 ซม. อับเรณูมีความยาวประมาณ 1 ซม.
ก้านเกสรเพศเมียมีความยาว 0.3-0.7 ซม. แยกเป็น 3 แฉก ผลรูปขอบขนานมีความยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน
เมล็ดกลมสีแดงส้มจำนวนมาก ผลมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานมีความยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน มีเมล็ดกลมๆสีแดงส้มจำนวนมาก